บทที่ว่าด้วยระเบียบวิจัยนั้นมักจะสร้างความเบื่อหน่ายให้หลายๆ คนที่ไม่รู้ว่า
- จะเขียนอย่างไรไม่ให้เป็นการลอกเลียนแบบหรือ Plagiarism
- ควรจะต้องเขียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง
- ควรจะเขียนมากน้อยขนาดไหน
จากประสบการณ์ของผมแล้วบท Methodology ควรมีลักษณะดังนี้ครับ - เขียนเสมือนหนึ่งว่าเรากำลังเล่าให้ผู้อ่านฟังว่าเราทำวิจัย(วิทยานิพนธ์)นี้อย่างไร
จุดประสงค์อย่างหนึ่งของบท Methodology ก็คือ ผู้อ่านสามารถทำวิจัยแบบที่เราทำซ้ำได้อีกครั้ง (Replication) ดังนั้นข้อมูลที่เราจะเขียนลงไปในบทนี้ควรจะมีรายละเอียดที่เพียงพอให้ผู้อ่านสามารถทำได้ดังกล่าว อย่างไรก็ตามเราอาจจะไม่ต้องเขียนไปทุกรายละเอียดแต่เล่าในเชิงขั้นตอนว่าทำอะไรอย่างไรบ้าง เช่น สัมภาษณ์โดยวิธีการใด ตัวต่อตัว หรือ ผ่านโทรศัพท์ หรือผ่าน Skype มีการเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีไหน จำนวนตัวอย่างใช้วิธีใดคำนวณหรือเลือกและสุ่มโดยบังเอิญ หรือ โดยเฉพาะเจาะจงตามความสะดวกหรือการเข้าถึงข้อมูล หากการสัมภาษณ์ใช้แบบสอบถามก็ควรจะมีการแนบแบบสอบถามหรือรายชื่อหัวข้อที่ถามในกรณีที่เป็นการสัมภาษณ์แบบกึ่งเปิดกึ่งปิด โดยควรแนบไว้ที่ภาคผนวก (Appendices) มากกว่าแนบไปในตัวบท - เขียนเสมือนหนึ่งว่าเรากำลังอธิบายว่าเราตัดสินใจเลือกและออกแบบกระบวนการต่างๆ ในการทำวิจัยอย่างไร
ในข้อนี้เป็นการแสดงว่าระเบียบวิธีวิจัยของเรานั้นมีความถูกต้องและเหมาะสมตามหลัก มีแนวทางการเขียนดังนี้
2.1 การเลือกระเบียบวิธีวิจัยให้เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับคำถามวิจัยที่ใช้ ไม่ใช่โดยเหตุผลอื่นๆ เช่น เราคำนวณเก่งหรือไม่เก่ง หรือแม้จะอ้างว่ายังไม่มีใครใช้วิธีนี้ในการวิจัยเรื่องนั้นๆ ซึ่งแม้บางทีจะพอรับได้แต่ก็ไม่ถูกต้องตลอดไป ตัวอย่างการเลือกวิธีการวิจัยที่เหมาะสมเช่น
ก. คำถามวิจัยเริ่มต้นด้วยคำว่า ทำไม… จึงต้องการรายละเอียดที่จะอธิบายสาเหตุดังกล่าวประกอบกับยังไม่มีแนวทางจากงานวิจัยในอดีตมากนักจึงใช้การสัมภาษณ์แบบปลายเปิดแบบเชิงลึก หรือ
ข. คำถามวิจัยเริ่มด้วยคำว่า อะไร… เท่าไหร่ ต้องการคำตอบในเชิงปริมาณครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ จึงใช้การสำรวจโดยใช้แบบสอบถาม
2.2 การเลือกวิธีการวิจัยอาจจะอ้างอิงจากงานวิจัยในอดีตที่ใกล้เคียงกัน
เช่นจำนวนตัวอย่างที่เหมาะสม หรือหัวข้อคำถาม หรือกรอบแนวคิดที่มากจากงานวิจัยในอดีต
2.3 การเลือกวิธีการวิจัยอาจจะอ้างอิงจากการศึกษาขั้นต้น
หากมีโอกาสและเวลาพอ การศึกษาขั้นต้นเช่นกรณีศึกษานำร่อง (Pilot study) อาจจะเป็นตัวกำหนด กรอบแนวคิด หรือ คำถามวิจัย หรือ ตัวแปรที่เหมาะสมก็ได้ หรือหากงานที่ศึกษาใช้แบบสอบถามที่มี Likert Scale การเลือกว่าจะใช้ Likert Scale ที่ 5, 7 หรือ 10 นั้นอาจจะมาจากการทดลองเก็บข้อมูลขั้นต้นก็ได้
สำหรับ MSc Dissertation ที่มีความยาวไม่เกิน 15,000 คำ บท Methodology ปกติจะมีความยาวประมาณ 2,000-5,000 คำ แล้วแต่ความเหมาะสม
สำหรับวิทยานิพนธ์ของผมนั้นใช้ Case Study และ Action Research ในการพัฒนาเครื่องมือตรวจสอบสุขภาพด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมบริการ ในขั้นแรกก็ได้อธิบายเหตุผลในการเลือกเครื่องมือวิจัยโดยอ้างอิงจากงานวิจัยด้าน การจัดการการปฏิบัติการ OM โลจิสติกส์ และ โซ่อุปทาน ต่อมาได้อธิบายขั้นตอนการทำวิจัยของวิทยานิพนธ์นี้ นอกจากนี้วิทยานิพนธ์ในสหราชอาณาจักร จะต้องมีการพูดถึงจริยธรรมของงานวิจัยหรือ Research Ethic ด้วยว่าเราไม่ได้ไปละเมิดสิทธิของบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยนี้ด้วย บางแห่งเช่น Cardiff University วิทยานิพนธ์จะต้องแนบ Research Ethic Form และเอกสารที่เกี่ยวข้องเช่น ใบยินยอมให้ข้อมูลด้านท้ายของวิทยานิพนธ์อีกด้วย
สรุปแล้ว บทระเบียบวิธีวิจัยนั้น เป็นการอธิบายวิธีการวิจัยที่มาจากลักษณะของคำถามวิจัยและขั้นตอนการทำวิจัยโดยชี้ให้เห็นว่าแต่ละขั้นตอนมีเหตุผลรับรองที่ถูกต้องโดยอ้างอิงจากงานวิจัยที่ผ่านมาหรือการศึกษาขั้นต้น